” อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองใช่ไหม? ลองใช้ ทฤษฎี 21 วัน ดูสิ “
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำพูดนี้กันผ่านหูมาบ้าง และยิ่งในยุคนี้ที่เมื่อเรามีความคิดที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากเลิกนิสัยเดิมๆ และมีนิสัยใหม่ที่ช่วยพัฒนาตัวเองในทางที่ดีขึ้น หรือแม้แต่การอยากทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จ และเมื่อลองปรึกษาคนรอบข้างหรือถามอาจารณ์กูเกิลดู Roo-Mai เชื่อเลยว่าหนึ่งในเทคนิคต่างๆ ที่เจอจะต้องมีทฤษฎี 21 วัน หรือกฎ 21 วัน อยู่ด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งหากใครกำลังงงหรือสงสัยว่าเจ้าทฤษฎีที่ว่านี้คืออะไร วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักและเข้าใจทฤษฎี 21 วันเปลี่ยนนิสัยนี้ให้มากขึ้นกัน!
ทฤษฎี 21 วัน คืออะไร?
ทฤษฎี 21 วัน คือ แนวทางในการเปลี่ยนแปลงนิสัย หรือสร้างพฤติกรรมใหม่โดยใช้หลักจิตวิทยา เพื่อพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ ตามที่ต้องการ ด้วยการทำพฤติกรรมเดิมซ้ำๆ ติอต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 21 วัน ทำขั้นต่ำวันละ 15 นาที จนเกิดความเคยชินและทำให้พฤติกรรมนั้นกลายมาเป็นนิสัยในที่สุด ซึ่งเมื่อกลายเป็นนิสัยแล้ว นั่นหมายความว่าเราจะทำพฤติกรรมนั้นได้เป็นกิจวัตประจำวันและไม่รู้สึกว่าต้องฝืน
ซึ่งทฤษฎี 21 วัน (21 Days Habit Theory) นั้นมีที่มาจาก “หนังสือ Psycho-Cybernetics” ของ Dr.Maxwell Maltz ดร. แมคเวล มอลท์ ศัลยแพทย์ชาวสหรัฐอเมริกา ที่ได้ค้นพบทฤษฎีนี้จากการสังเกตพฤติกรรมของคนไข้ ในการปรับตัวและคุ้นชินกับสภาพร่างกายใหม่ของตัวเองภายหลังการรักษา
ภาพจาก: www.amazon.com
ข้อดีของการใช้ทฤษฎี 21 วัน
- ท้าทายตัวเอง ปกติคนเราจะทำอะไรได้ไม่นาน ก็เบื่อ หยุดทำ โดยเฉพาะสิ่งที่ยากๆ ต้องฝืนตัวเอง ทฤษฎี 21 วันทำให้เรารู้สึกเหมือนเล่นเกมส์ ได้ท้าทายตัวเอง ทำให้มีแรงจูงใจในการทำให้สำเร็จมากขึ้น
- เริ่มได้ง่าย เนื่องจาก 21 ถือเป็นเวลาที่ไม่นานมาก จึงทำให้สามารถเริ่มทำได้ง่าย
- สามารถนำไปปรับใช้ได้กับหลากหลายอย่าง แม้แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือนิสัยเล็กๆ ก็สามารถทำได้
- ได้ลงมือทำ เพราะการลงมือทำอะไรซักอย่าง แม้ทำไปแล้วอาจจะไม่สำเร็จ 100% แต่การเริ่มลงมือทำไปทีละน้อย ก็ย่อมดีกว่าการไม่เริ่มต้นทำอะไรเลย
ตัวอย่างการใช้ทฤษฎี 21 วัน มีอะไรบ้าง?
อย่างที่เรารู้กันไปแล้วว่าข้อดีอย่างหนึ่งของทฤษฎี 21 วัน คือการที่กฎนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายมากๆ ตั้งแต่พฤติกรรมเล็กๆ อย่างการกิน การนอน การเล่นโซเซียล ไปจนถึงการปรับพฤติกรรมและ Mind Set ในการทำธุรกิจหรือให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่ตัวอย่างพฤติกรรมที่นิยมนำกฎ 21 วันมาใช้และเห็นได้บ่อยๆ จะมีดังนี้
1.การเรียน การทำงาน
การปรับพฤติกรรมและสร้างนิสัยที่ดีในด้านการเรียนและการทำงาน ถือเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากคนที่อยู่ในวัยเรียนและวัยทำงาน ส่วนใหญ่แล้วมักอยากพัฒนาตัวเองเพื่อให้มีผลการเรียนดีขึ้น สอบติด และอยากเลื่อนตำแหน่งหรือก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ซึ่งตัวอย่างพฤติกรรมที่ใช้ทฤษฎี 21 วัน เช่น อ่านหนังสือ ฝึกภาษา ลงคอร์สเรียนเพื่อเสริมความรู้และพัฒนาศักยาภาพ เป็นต้น
2.การออมเงิน
ในเรื่องของการออมเงินและการลงทุนเอง ก็มีการนำเอาทฤษฎี 21 วันมาปรับใช้ด้วยเช่นกัน เพื่อเสริมสร้างนิสัยและวินัยในการออมเงิน เช่น การออมเงินหรือลงทุนทุกวันติดต่อกัน 21 วัน แต่บางคนก็มีการเพิ่มลูกเล่นให้กับการออมเงิน ด้วยการทำฉลากตั้งแต่เลข 1 – 21 แล้วในแต่ละวันให้จับฉลากขึ้นมา ถ้าได้เลขไหนก็ให้ออมเงินเท่ากับเลขนั้น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้การออมเงินไม่น่าเบื่อ และช่วยให้สนุกมากขึ้นคล้ายกับการเล่นเกมส์
3.การลดน้ำหนัก
ทฤษฎี 21 วัน ลดน้ําหนัก ถือเป็นอีกการปรับพฤติกรรมและสร้างวินัยที่ได้รับความนิยมมากๆ โดยอาจจะเป็นการตั้งเป้าหมายว่าจะออกกำลังกาย และปรับพฤติกรรมการกิน เช่น ลดแป้ง ลดน้ำตาล กินผักและผลไม้ให้มากขึ้นติดต่อกัน 21 วัน เพื่อลดน้ำหนักและให้มีรูปร่างที่ดีขึ้น ซึ่งในการทำแนะนำว่าไม่ควรชั่งน้ำหนักทุกวัน เพราะช่วงแรกๆ น้ำหนักจะไม่ได้ลดลงทันทีอยู่แล้ว หากไปชั่งดูแล้วเห็นว่าน้ำหนักไม่ลด ก็อาจจะทำให้ท้อและเลิกทำได้
4.เรื่องความรัก
หลายคนอาจจะงงกับว่าข้อนี้ว่า เอ๊ะ! เรื่องความรักมันเกี่ยวกับทฤษฎี 21 วันด้วยเหรอ ต้องบอกเลยเรื่องความรักเนี่ย มีคนนำเอาทฤษฎีนี้มาใช้กันเยอะมากๆ เลย แล้วบางคนก็ได้ผลดีเกินคาดซะด้วย โดยที่นิยมใช้กันจะเป็นการจีบหรือส่งข้อความหาคนที่ชอบติดต่อกัน 21 วัน เพื่อให้อีกฝ่ายคุ้นชินและค่อยๆ เริ่มรู้สึกดีกับเราในที่สุด แต่ก็ย้ำว่าไม่ใช่จะได้ผลกับทุกคน เพราะเรื่องความรักเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และขึ้นอยู่กับความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย
5.การเพิ่มความมั่นใจ
อีกหนึ่งเรื่องที่นิยมทำกันโดยใช้หลัก 21 วัน เปลี่ยนนิสัย ก็คือเรื่องการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตัวเอง การแต่งตัวให้ดีขึ้น หรือการปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้น เช่น ฝึกไม่เดินหลังค่อมติดต่อกัน 21 วัน หรือฝึกยิ้มแย้มให้มากขึ้น เป็นต้น ซึ่งเรื่องของบุคลิกภาพและความมั่นใจ ถือเป็นสิ่งที่ค่อยข้างมีความสำคัญในการใช้ชีวิตในสังคม จึงไม่แปลกที่จะมีคนจำนวนมากที่อยากพัฒนาตัวเองในเรื่องนี้ และนำเอาทฤษฎี 21 วันเข้ามาช่วย
เทคนิคเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยกฎ 21 วัน ให้สำเร็จ
ถ้าหากให้ทำพฤติกรรมเดิมซ้ำๆ โดยใช้ทฤษฎี 21 วัน ในช่วงแรกของการปรับพฤติกรรม เราก็อาจจะสามารถทำได้ เพราะยังมีไฟอยู่ แต่สำหรับคนที่อาจจะไม่มีแรงจูงใจหรือเป้าหมายที่ชัดเจนมากพอ เมื่อเวลาผ่านไปก็อาจจะรู้สึกเหนื่อย เบื่อหน่าย และเลิกทำไปในที่สุด ดังนั้นวันนี้เราเลยมีเทคนิคดีๆ ในการกระตุ้นให้สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สำเร็จมาฝากกัน
- ตั้งรางวัลให้กับตัวเอง เมื่อทำสำเร็จในแต่ละเป้าหมาย เช่น การไปเที่ยว ช้อปปิ้ง หรือได้กินอาหารที่ชอบ ฯลฯ
- เริ่มจากการเปลี่ยนพฤติกรรมง่ายๆ ก่อน เพื่อไม่ให้รู้สึกท้อและเลิกทำเร็วเกินไป เมื่อทำสำเร็จแล้ว ก็จะทำให้มีกำลังใจมากขึ้น และอยากทำเป้าหมายต่อไป
- ต้องเริ่มทำทันที! ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง เพราะจะทำให้ไม่ได้เริ่มทำซักที และพอเวลาผ่านไปนานๆ ก็อาจจะไม่อยากทำแล้ว
- ทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดทำกลางคัน แล้วคิดว่าจะมาทำต่อหรือทำชดเชยภายหลัง เพราะส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้ทำ
- ไม่เอาคำพูดบั่นทอนของคนอื่นมาใส่ใจ เช่น บอกว่าเราทำไม่ได้ หรือเดี๋ยวก็เลิกทำแน่ๆ ฯลฯ แต่ควรเห็นคุณค่าของตัวเอง และเชื่อว่าเราจะทำได้ (บนพื้นฐานของความเป็นจริง)
ใช้ทฤษฎี 21 วันแล้ว จะเปลี่ยนตัวเองได้จริงไหม?
หากถามว่าถ้าใช้ทฤษฎี 21 วันแล้ว จะเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสร้างนิสัยใหม่ได้จริงไหม? ก็คงต้องบอกเลยว่า “ ตอบไม่ได้! ” เพราะจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคน เช่น ความมุ่งมั่นตั้งใจ ความชัดเจนของเป้าหมาย การมีวินัยในตัวเอง รวมถึงสิ่งกระตุ้นหรือสิ่งเร้ารอบตัว ฯลฯ จึงทำให้ไม่สามารถฟันธงได้ว่า ถ้าใช้กฎ 21 วันแล้ว ทุกคนจะทำสำเร็จเหมือนกัน
แต่ถึงอย่างนั้นกฎ 21 วัน ก็เป็นเพียงแค่ระยะเวลาขั้นต่ำที่ควรทำในการเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือเริ่มนิสัยใหม่เท่านั้น บางคนก็อาจจะใช้เวลามากกว่านี้ ซึ่งจะตรงกับงานวิจัยของ Phillippa Lally นักวิจัยด้านจิตวิทยาสุขภาพ ที่ได้บอกว่าจริงๆ แล้วคนเราจะใช้เวลา 66 วัน หรือ 2 เดือน ในการปรับเปลี่ยนหรือสร้างนิสัยใหม่ขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงไม่ควรยึดติดกับเวลา 21 วันมากนัก แบบทำครบ 21 วันแล้วฉันจะต้องเปลี่ยนเป็นคนใหม่แน่ๆ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือการมีวินัยและความสม่ำเสมอ ในการทำพฤติกรรมนั้นอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นนิสัยนั่นเอง
สำหรับ ทฤษฎี 21 วัน ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ดีมากๆ ในการปรับพฤติกรรมหรือสร้างนิสัยใหม่ๆ ที่ส่งผลดีต่อการพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ ทั้งด้านการเรียน ทำงาน สุขภาพ หรือแม้แต่เรื่องของความรัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรพึ่งระวังไว้ด้วยว่ากฎ 21 วัน เป็นเพียงแนวทางปฏิบัติเท่านั้น ไม่ได้การันตีว่าจะสามารถทำสำเร็จได้ทุกคน เพราะแรงใจและวินัยของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ดังนั้นหากอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สำเร็จ ก็จำเป็นต้องมีวินัย ทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง และที่สำคัญคือต้องเริ่มทำทันที อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง